ประยุทธ์ แถลงว่า ก.ตร. ได้แต่งตั้ง บิ๊กโจ๊ก ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ9) เทียบเท่าผู้ช่วยผบ.ตร. ทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานด้านยุทธศาสตร์ บิ๊กโจ๊ก – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือก.ตร. ครั้งที่ 4/2564
โดยมีวาระแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับพล.ต.ต.ขึ้นไป 3 กลุ่ม
ได้แก่ ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ ตร. (ยศพล.ต.อ. เทียบเท่ารองผบ.ตร.), ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษตร. (ยศพล.ต.ท.เทียบเท่าผบช.), ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิตร. (ยศพล.ต.ต. เทียบเท่าผบก.) และตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ9) เทียบเท่าผู้ช่วยผบ.ตร. ทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานด้านยุทธศาสตร์ ล่าสุดเวลา 14.20 น. นายกรัฐมนตรีแถลงว่า ก.ตร.แต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ9) เทียบเท่าผู้ช่วยผบ.ตร. ทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานด้านยุทธศาสตร์
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 ก.พ. เคยเสนอเรื่องขออนุมัติเปิดตำแหน่งเพียงผบช. 4 ตำแหน่ง และ ผบก. 4 ตำแหน่ง แต่ที่ประชุม ก.ตร.มีมติให้นำเรื่องกลับมาศึกษารายละเอียดอีกครั้ง คาดการเสนอขอเปิดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 9) เทียบเท่าตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. ผบช. และ ผบก.ครั้งนี้ จะมีการเสนอชื่อตัวบุคคลในบางตำแหน่งเพื่อรอแต่งตั้งในวาระแต่งตั้งข้าราชการตำรวจปลายเดือน เม.ย.
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา บิ๊กโจ๊ก ได้เข้ารายงานตัวกับกองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและกองงานธุรการ ในตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้านการให้บริการกับประชาชนและการพัฒนาระบบงานพัฒนาประชาชน หลังจากที่ลาพักร้อนยาวตั้งแต่เดือนเมษายน
รังสิมันต์ โรม’ โพสต์ข้อความแสดงความผิดหวัง หลังที่ประชุมโหวตคว่ำ แก้รัฐธรรมนูญ วาระที่ 3 หลังจากที่ไม่ได้รับเสียงสนันสนุนถึงเป้า แก้รัฐธรรมนูญ – นาย รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก แสดงความผิดหวังกับ ผลการแก้รัฐธรรมนูญวาระที่ 3 หลังจากที่ มี ส.ว. ลงคะแนนเสียง อย่างน้อย 84 เสียง ผลคือมี ส.ว. เห็นชอบเพียง 2 เสียงเท่านั้น ทำให้ร่างดังกล่าวไม่ผ่านความเห็นชอบ
โดยข้อความของนาย รังสิมันต์ ระบุว่า “ในที่สุด ผลการโหวตแก้รัฐธรรมนูญวาระที่ 3 ก็ออกมาแล้วครับ
มติเห็นชอบ จากที่ต้องการอย่างน้อย 369 เสียง ผลคือมีผู้เห็นชอบเพียง 208 เสียง และจากที่ต้องการเสียง ส.ว. อย่างน้อย 84 เสียง ผลคือมี ส.ว. เห็นชอบเพียง 2 เสียงเท่านั้น
การแก้รัฐธรรมนูญที่ทั้งภาคประชาชนและ ส.ส. ฝ่ายค้านร่วมผลักดันกันมากว่าครึ่งปี ถูกคว่ำลงโดยการเอาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ (ที่ไม่ว่าอย่างไรผมก็ยืนยันว่าไม่มีทางทำให้การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นโมฆะ) มาเป็นเหตุอ้าง เสียงส่วนใหญ่ในสภาเบี่ยงไป “งดออกเสียง”, “ไม่ลงคะแนน” หรือไม่ก็หายหน้าไปเลย ไม่กล้าแม้แต่จะยอมรับตรงๆ ด้วยซ้ำว่าตัวเอง “ไม่ต้องการ” ให้เกิดการแก้รัฐธรรมนูญ
น่าผิดหวังแทนประชาชนนับแสนที่ออกมาต่อสู้เรียกร้อง และอีกนับล้านที่เฝ้าคอย ความหวังของพวกเขาต้องพังทลายลงด้วยน้ำมือของบางคนที่อ้างตัวเป็น “ผู้แทนปวงชน” (ยิ่งกับบางคน ประชาชนไม่ได้เลือกมาด้วยซ้ำ)”
ที่ประชุม โหวตคว่ำ แก้รัฐธรรมนูญ ขณะที่ ‘ภูมิใจไทย’ วอล์กเอาท์
ที่ประชุม โหวตคว่ำวาระสาม แก้รัฐธรรมนูญ หลังได้เสียงเห็นชอบไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งสองสภา ขณะที่ ภูมิใจไทย วอล์กเอาท์ จากที่ประชุม
#แก้รัฐธรรมนูญ – นายพรเพชร วิชิตชลชัย ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้แจ้งผลการลงมติในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่…พ.ศ… ว่าที่ประชุมมีมติไม่เห็นชอบ ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่.. พ.ศ… มาตรา 256 เพิ่มเติมมาตรา 15/1 ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญ
หลังจากที่มี ส.ส.เห็นชอบ 206 เสียง ส.ว.2 เสียง รวม 208 เสียง ไม่เห็นชอบ ส.ส.ไม่มี ส.ว.4 เสียง รวม 4 เสียง งดออกเสียง ส.ส.10 เสียง ส.ว 84 เสียง รวม 94 เสียง ไม่ประสงค์ลงคะแนน ส.ส. 9 เสียง ส.ว. 127 เสียง รวม 136 เสียง ดังนั้นที่ประชุมร่วมรัฐสภาเห็นชอบไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งสองสภาหรือ 369 เสียง
โดย ส.ว. 250 คน เสียงส่วนใหญ่ ออกเสียงไม่ลงคะแนนและงดออกเสียง ทั้งนี้มี 2 ส.ว. คือ นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และ นายพิศาล มาณวพัฒน์ เป็นส.ว.ที่ลงมติเห็นชอบ ขณะที่นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม นพ.พลเดช ปิ่นประทีป นายไพฑูรย์ หลิมวัฒนา และนายเสรี สุวรรณภานนท์ ลงมติไม่เห็นชอบ
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 กำหนดว่า การออกเสียงวาระ 3 ต้องได้เสียงเห็นชอบจากวุฒิสภาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง จากจำนวนทั้งหมด 250 เสียง แต่การออกเสียงดังกล่าวได้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์ดังกล่าว ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวไม่ผ่านความเห็นชอบ
ขณะเดียวกัน นาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า คงไม่สามารถร่วมสังฆกรรมกับพวก ฉ้อฉล ศรีธนญชัย โกหกปลิ้นป้อน ไร้สาระสิ้นดี สภานี้เป็นสภาโจ๊ก ก่อนที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยทั้งหมดได้วอล์กเอาท์ออกจากห้องประชุม ก่อนที่ที่ประชุมจะเข้าสู่วาระการลงมติร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 โดยการขานชื่อเป็นรายบุคคล
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร